Risk Reward Ratio คือ อัตราส่วนความเสี่ยงต่อกำไร หรือ เป็นที่รู้จักกันในคำย่อสั้นๆว่า “RRR” หรือ “RR” ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการเทรดที่สามารถช่วยให้เทรดเดอร์กำหนดกำไร หรือ ขาดทุนที่เป็นไปได้จากการเทรดแต่ละไม้ การเข้าใจ RRR และวิธีการคำนวณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเทรดที่ประสบความสำเร็จและจะไม่ล้างพอร์ตหรือเสียหายหนัก ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงแนวความคิดเกี่ยวกับ RRR วิธีการคำนวณ และวิธีการที่เทรดเดอร์สามารถใช้ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดเพื่อควบคุมความเสี่ยง
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อกำไร คือ อัตราส่วนระหว่างกำไรที่เป็นไปได้ และ ขาดทุนที่เป็นไปได้จากการซื้อขายสินทรัพย์นั้นๆ กล่าวง่ายๆ เช่น ถ้านักเทรดพร้อมที่จะเสีย $100 เพื่อทำกำไรที่เป็นไปได้ $400 อัตราส่วนความเสี่ยงต่อกำไรจะเป็น 1:4 หรือ หมายความว่า Risk Reward Ratio คือ 1 ต่อ 4 (RRR 1 ต่อ 4)
ทำไม RRR ถึงสำคัญ
RRR มีความสำคัญอย่างมากเพราะ การวางแผนเทรดโดยมี RRR ด้วยนั้นจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจัดการกับความเสี่ยงที่จะล้างพอร์ตและวางแผนถึงโอกาสในการทำกำไรในแต่ละไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการคำนวณ RRR ก่อนนั้น เราจะรู้ว่าไม้ที่จะเทรดนั้น คุ้มค่าต่อความเสี่ยงหรือไม่ เช่น หากจะต้องเทรดเป้าหมาย 100 USD ในขณะที่จะต้องเสี่ยงเสียเงินถึง 500 USD แบบนี้ก็แปลว่าไม่คุ้มในการออกออเดอร์ เพราะว่า ความเสี่ยงเยอะกว่ากำไรที่จะได้ นอกจากการรู้ RRR นี้ยังช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกำหนดระดับของการตั้ง Stop-loss และ Take-profit ได้ด้วย
วิธีการคำนวณ Risk Reward Ratio
การคำนวณ RRR เป็นกระบวนการที่เรียบง่าย โดยมีสมการดังนั้น
RRR = เงินกำไรที่คาดไว้ / เงินขาดทุนที่รับได้
หรือ
RRR = จำนวนจุด(point) ที่คาดไว้หากได้กำไร / จำนวนจุด (point) ที่จะยอมตัดขาดทุน
ซึ่งจากสมการด้านบน เราจะเริ่มตั้งต้นด้วยการตั้งเป้ากำไรขาดทุนก็ได้ หรือตั้งเป้าด้วย RRR และกำไรที่พึงพอใจหรือจุดขาดทุนก่อนก็ได้ ซึ่งการวางแผนก็จะเป็นไปตามกลยุทธ์ของตัวเองอาจจะเป็น แนวรับ แนวต้าน Fibonacci หรือ Elliot Wave เป็นต้น ตัวอย่างเช่น:
เราสมมติว่าเทรดเดอร์ต้องการ Buy XAUUSD ในจุดที่เบรกเส้นกดตามภาพด้านบน และพอตี Fibonacci ดูแล้วนั้น คิดว่าราคามีโอกาสขึ้นไปที่แนว 261.8 ซึ่งเป็นแนวที่มีนัยยะสำคัญและยังเป็นแนวรับเก่าอีกด้วย ดังนั้นหากเบรกเส้นกดที่ 1677.915 ก็จะเข้าซื้อ และตั้ง Target Take Profit ที่ 1914.712 ในขณะเดียวกัน หากราคาไม่วิ่งขึ้น และหลุด Low ที่แนวรับปัจจุบันที่ราคา 1611.549 ก็จะตัดขาดทุน หรือ Stop loss ทันที
ดังนั้น ก็จะคำนวณได้ดังนี้
RRR = จำนวนจุด(point) ที่คาดไว้หากได้กำไร / จำนวนจุด (point) ที่จะยอมตัดขาดทุน
โดย
จำนวนจุด (point) ที่คาดไว้หากได้กำไร = 1914.712 (Target TP) – 1677.915 (ราคาเข้า)
จำนวนจุด (point) ที่จะยอมตัดขาดทุน = 1677.915 (ราคาเข้า) – 1611.549 (ราคาตัดขาดทุน)
RRR = 236.797 / 66.366
RRR = 3.57
แปลได้ว่าอัตราเสี่ยงต่อกำไรนั้นคือ 1:3.57 คือถ้าวางเงินให้เสีย 100$ ที่ Stop Loss ก็จะได้กำไร 357 $ ที่ Take Profit
RRR เท่าไหร่ถึงจะดี ?
ในโลกแห่งการเงินไม่มีสูตรตายตัวว่าเท่าไหร่ถึงจะดี ในมุมของ RRR นั้น ควรวางแผนให้สอดคล้องกับ Winrate ของท่านเอง
หาก Win Rate น้อย RRR ก็ควรจะเยอะ
หาก Win Rate เยอะ RRR ก็สามารถน้อยลงได้
ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น หาก Win Rate คือ 30% แปลว่า ถ้าเทรด 10 ไม้ จะชนะ 3 ไม้ และแพ้อีก 7 ไม้ ดังนั้นหาก RRR ที่จะได้กำไร จะต้องเป็น 1:3 คือเทรดครั้งนึง ได้ $300 แต่ถ้าเสีย เสียครั้งละ $100 ดังนั้น แม้ว่าทั้งหมด จะแพ้ 7 ครั้ง เสียรวมกัน -$700 แต่กำไร 3 ไม้ ไม้ละ $300 จะรวมเป็น $900 และผลรวมกำไรจะเป็น $900 – $700 = $200 ดังตารางด้านล่าง
สูตรคำนวณ Risk Reward Ratio จาก Win Rate
RRR = (1 / Winrate) -1
ยกตัวอย่าง หาก Win Rate = 30% จากข้างต้น สมการจะเป็น
RRR = (1/0.3)-1
RRR = 2.3
ดังนั้นแปลว่า RRR ที่จะทำให้พอร์ตมีกำไรคือ 2.3 ขึ้นไป
การใช้ RRR ในการเทรด
การใช้ RRR ในการเทรดนั้น เทรดเดอร์สามารถปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้ได้
- ก่อนอื่นให้กำหนด RRR ที่ต้องการตามความความเสี่ยงที่เทรดเดอร์รับได้ และควรเป็นความเสี่ยงที่เหมาะสมต่อกลยุทธ์ และคอยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเทรดตาม RRR ที่เราตั้งเป้าหมายไว้
- เก็บบันทึก Trading History เพื่อวิเคราะห์หา Win rate ของตัวเอง เมื่อเข้าใจ Win Rate ของตัวเองแล้ว เทรดเดอร์จะสามารถปรับ RRR ให้สอดคล้องเพื่อที่จะสามารถทำไรได้ตามตาราง Win Rate และ RRR ด้านบนได้
- ปรับ Position Sizing ให้เข้ากับ RRR และ Win Rate ถ้าหากไม้ไหนมีกำไรต่อขาดทุนสูง หรือ ในคู่เทรดไหนมี Win Rate สูง ก็สามารถปรับ Position Sizing ให้สูงขึ้นได้ และในไม้ที่จะมีความเสี่ยงสูงกว่า ก็ให้วางเงินน้อยลงเพื่อควบคุมความเสี่ยงและเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์การเทรดและเพิ่มผลกำไรในระยะยาวได้
สรุป
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อกำไร (Risk reward ratio) เป็นแนวคิดที่สำคัญที่เทรดเดอร์ควรเข้าใจ โดยการคำนวณ RRR ก่อนที่จะทำการซื้อขาย จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกำหนดได้ว่า กำไรที่เป็นไปได้คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่ต้องรับหรือไม่ นอกจากนี้ การใช้ RRR ยังช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกำหนดระดับการตั้ง Stop-loss และ Take-profit รวมถึงจุดเข้าและจุดออกในการซื้อขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำ RRR มาใช้ปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดและจัดการความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น