...

Parabolic SAR คือ อินดิเคเตอร์ ไข่ปลา ตัวช่วย “หาเทรนด์”

Table of Contents

Parabolic SAR คือ อินดิเคเตอร์ ไข่ปลา ตัวช่วย "หาเทรนด์"

หากคุณเป็นสายรันเทรนด์มีคติประจำใจ “Trend is your friend” ก็คงจะต้องเคยได้ยินชื่อ Parabolic SAR ผ่านหูบ้าง เพราะเป็นหนึ่งในเครื่องมือจับเทรนด์ที่โด่งดังและถูกใช้อย่างแพร่หลาย โดยเครื่องมือนี้จะมีลักษณะคล้ายๆจุด “ไข่ปลา” ถูกสร้างขึ้นมาโดยเทรดเดอร์และวิศวกรชาวอเมริกันอย่าง J. Welles Wilder ซึ่งเป็นผู้คิดค้นและพัฒนา Indicator ชื่อดังอย่าง Relative Strength Index (RSI), Average True Range (ATR) และ Average Directional Index (ADX)

Parabolic SAR คือ อินดิเคเตอร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยชี้ให้เห็นถึง 3 สิ่งดังนี้

  1. หาเทรนด์
  2. บอกจุดเข้าและจุดออกที่ชัดเจน โดยคำว่า “SAR” ย่อมายาก Stop and Reversal นั่นเอง 
  3. บอกความแรงของการเคลื่อนไหวของราคา

การใช้งาน Parabolic SAR

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Parabolic SAR นั้นถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายเป็นเพราะ concept ที่เข้าใจได้ง่าย โดยหากดูกราฟ ตัวบ่งชี้จะปรากฏเป็นลักษณะจุด “ไข่ปลา” ที่อยู่ด้านบนกราฟ หรือ ด้านล่างของแท่งเทียน  โดย “ไข่ปลา” เหนือกราฟราคาจะแสดงให้เห็นถึงสภาวะตลาดหมี (Bearish: ตลาดขาลง) และโมเมนตัมมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในขาลง และหากกราฟกลับตัวเป็นภาวะตลาดกระทิง (Bullish: ตลาดขาขึ้น) จุด “ไข่ปลา” นี้ก็จะอยู่ด้านล่างกราฟราคานั่นเอง

อินดิเคเตอร์ ไข่ปลา
ใช้งาน อินดิเคเตอร์ “Parabolic SAR” ใน MT5

จากภาพด้านบน จะเห็นได้ว่า Parabolic SAR ใน MT5 จะอยู่ภายใต้ Indicator แบบ “Trend” และแสดงให้เห็นว่าในช่วงที่ราคาเป็นขาขึ้น จุดไข่ปลา (สีชมพู) จะอยู่ด้านล่างแท่งเทียน

ดังนั้นในเมื่อจุดไข่ปลาอยู่ด้านล่าง เทรดเดอร์สามารถเข้า Position “Buy/Long” ได้ โดยหาจุดไข่ปลาไปอยู่ด้านบนเมื่อไหร่ นั่นคือจุดที่เทรดเดอร์ควรที่จะ Take Profit และเปิด Position “Sell/Short” นั่นเอง

Parabolic SAR ช่วยบอกความแรงของเทรนด์

ไข่ปลา ตัวช่วย "หาเทรนด์"

นอกเหนือจากจุดเข้าและจุด Take profit เพื่อเข้าใหม่แล้ว อินดิเคเตอร์ Parabolic SAR นี้ ยังสามารถบอกความผันผวน หรือ “ความแรง” ของเทรนด์ได้อีกด้วย โดยจากภาพด้านบน จะเห็นได้ว่า เมื่อใดก็ตามที่ไข่ปลาชิด นั่นแปลว่า เทรนด์ “ไม่แข็งแรง” คือราคาจะไม่ได้มีความผันผวนมาก แต่เมื่อใดก็ตามที่ไข่ปลาห่างกัน นั่นแปลว่า เทรนด์มีความ “แข็งแรง” โดยจะเห็นได้ว่า กราฟราคาได้กระชากขึ้นไปเป็นแท่งที่ยาวกว่าแท่งชุดที่ไข่ปลาติดกัน บ่งบอกถึงความผันผวนของราคา

การใช้อินดิเคเตอร์อื่นประกอบการใช้งาน

เนื่องจากอินดิเคเตอร์ Parabolic SAR คือ เครื่องมือที่ถูกออกแบบมาให้คอยบอกเทรนด์ตลอด ไม่ว่าจะเทรนด์จริง หรือ เทรนด์หลอก ดังนั้นการนำอินดิเคเตอร์อื่นๆมาประกอบการตัดสินใจในการเทรดก็จะช่วยทำให้การจัดสินใจเทรดแหลมคมได้มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ADX, MA หรือ แนวรับแนวต้าน เป็นต้น

ตัวอย่าง การใช้ EMA ประกอบการเทรดคู่กับ Parabolic SAR

Parabolic SAR คือ

ตัวอย่างจากภาพด้านบน เช่น  หากนำ EMA เส้นเฉลี่ย 70 มาใช้ด้วยอย่างภาพประกอบด้านบน สัญญาณซื้อขายจาก Parabolic SAR จะน่าเชื่อถือมากขึ้นเมื่อเส้นเมื่อแท่งเทียนยืนเหนือหรือต่ำกว่าเส้น EMA ดังนั้นจะเห็นได้ว่า หากเราใช้ Parabolic SAR ในการหาจุดเข้าซื้อและขายอย่างเดียว เราจะเข้าๆออกๆบ่อยมาก และหากเรานำ 2 อินดิเคเตอร์มาประกอบกัน เราจะได้จุดเข้าจุดออกดังนี้

จุดเข้า

  1. เมื่อไข่ปลาอยู่ต่ำกว่ากราฟ 
  2. เมื่อแท่งเทียนตัดข้ามเส้น EMA ขึ้นไป

ดังนั้นเมื่อสัญญาณทั้ง 2 ตัวให้ครบ เราก็จะเข้า Buy ในจุดที่วงกลมสีเขียว

จุด Take Profit และ เข้าใหม่

  1. เมื่อราคาวิ่งขึ้นมาแล้วมีสัญญาณกลับตัว นั่นคือไข่ปลาอยู่เหนือกราฟ
  2. เมื่อแท่งเทียนตัดข้ามเส้น EMA ลงมา

เมื่อ 2 เช็คลิสต์ ครบ ก็จะเป็นสัญญาณที่ต้อง Take Profit จากสถานะ Buy ที่เปิดมาจากข้างล่างและเริ่มเปิดสถานะ Sell ซึ่งจะเห็นได้ว่า หากเราใช้ EMA ประกอบด้วย เราจะสามารถรันเทรนด์ได้ยาวกว่าการใช้ Parabolic SAR อย่างเดียว

ข้อจำกัดการใช้งาน

Parabolic SAR นั้นเป็นอินดิเคเตอร์ที่ให้สัญญาณอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สนว่าเทรนด์นั้นจะ “มีคุณภาพหรือไม่” พูดง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์จริง หรือเทรนด์หลอก อินดิเคเตอร์ “ไข่ปลา” นี้ ก้จะบอกเราให้เราซื้อ/ขาย อีกทั้งยังไม่เหมาะในการเล่นในตลาดที่เป็น Sideways (สภาวะวิ่งอยู่ในกรอบสะสม) ดังนั้นการนำอินดิเคเตอร์อื่นๆมาช่วยในการประกอบการตัดสินใจในการเทรด จะสามารถช่วยลด Noise หรือ “เทรนด์หลอก” ออกไปได้

Seraphinite AcceleratorOptimized by Seraphinite Accelerator
Turns on site high speed to be attractive for people and search engines.