CPI คือ ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ มีชื่อเต็มว่า Consumer Price Index ซึ่งดัชนีนี้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่สำคัญมากที่นำมาใช้วัดอัตราเงินเฟ้อ (Inflation) ในเศรษฐกิจ โดยนักลงทุนใช้ CPI เพื่อประเมินระดับเงินเฟ้อและผลกระทบของเงินเฟ้อต่อเศรษฐกิจ ในบทความนี้ เราจะพูดถึงว่า CPI คืออะไร การคำนวณ CPI และความสำคัญของ CPI สำหรับเศรษฐกิจที่เราจำเป็นต้องรู้
CPI คือ อะไร?
ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ Consumer Price Index (CPI) คือการวัดระดับราคาเฉลี่ยของสินค้าและบริการที่บ้านเรือนบริโภค ซึ่งใช้วัดอัตราเงินเฟ้อในเศรษฐกิจ โดยหน่วยงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics หรือ BLS) เป็นผู้รับผิดชอบการคำนวณและรายงาน CPI ในสหรัฐอเมริกา
ดัชนี้สำคัญทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศนั้น จะมีประกาศออกมาเป็นรายเดือน หรือ รายไตรมาส ซึ่งสามารถตรวจสอบวันประกาศได้บนปฏิทินเศรษฐกิจ
กราฟเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา มกราคม 2020 – มกราคม 2023
การคำนวณ CPI
การคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภค จะใช้วิธีการวัดราคาของสินค้าและบริการที่บ้านคนส่วนใหญ่ใช้ในการบริโภค โดยราคาเหล่านี้จะถูกเก็บรวบรวมทุกๆเดือนและคอยติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาตลอดเวลา
ในการคำนวณดัชนีราคาผู้บริโภคนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบคือ BLS โดยจะนำราคาของสินค้าและบริการในตะกร้าสินค้ามาเปรียบเทียบราคาของช่วงเวลาต่างๆ โดยใช้การคำนวณเป็นเฉลี่ยน้ำหนักของรายการต่างๆ ในตะกร้าสินค้า โดยน้ำหนักของแต่ละรายการจะขึ้นอยู่กับความสำคัญในการบริโภคของครัวเรือน เช่น น้ำหนักของรายการที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยจะมีน้ำหนักมากกว่ารายการที่เกี่ยวกับความบันเทิง
ดัชนีราคาผู้บริโภคจะรายงานเป็นตัวเลขดัชนี ซึ่งตั้งค่าเป็น 100 ในปีฐาน และเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงระหว่างรอบเวลาต่างๆ ด้วยเปอร์เซ็นต์เพื่อแสดงอัตราเสี่ยงทางการเงินในเศรษฐกิจที่สามารถเกิดขึ้นได้
Item ต่างๆที่ถูกนำราคามาเปรียบเทียบเพื่อเทียบการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อ
ความสำคัญของ CPI
ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index หรือ CPI) เป็นตัวบ่งชี้เศรษฐกิจสำคัญที่ใช้ติดตามอัตราเฉลี่ยการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าในเศรษฐกิจ และถูกใช้โดยนักเศรฐศาสตร์หรือธนาคารกลางเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ย
เมื่อดัชนีราคาผู้บริโภค เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะแสดงว่ามีการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นธนาคารกลางอาจตัดสินใจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจและควบคุมการเพิ่มขึ้นของราคา
นอกจากนี้ นักลงทุนยังใช้ดัชนีราคาผู้บริโภค เพื่อตัดสินใจการลงทุน เช่นเมื่ออัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น นักลงทุนอาจเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็นการป้องกันการเพิ่มขึ้นของราคา เช่นทองคำ อสังหาริมทรัพย์ หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นต้น
สรุป
สรุปได้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ Consumer Price Index (CPI) เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญในการวัดอัตราเงินต่างประเทศในเศรษฐกิจ โดยการคำนวณ CPI จะใช้ตะกร้าสินค้าและบริการที่บ้านเราใช้บ่อยเป็นหลักในการวัดราคา และจากนั้นนำไปคำนวณด้วยน้ำหนักของแต่ละสินค้าและบริการตามความสำคัญในการบริโภคของครัวเรือน ทำให้สามารถวัดอัตราเงินต่างประเทศได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ CPI ยังมีความสำคัญต่อนักเศรษฐศาสตร์ที่ใช้เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับการเงิน และนักลงทุนที่ใช้ CPI เพื่อตัดสินใจการลงทุน ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้จะใช้ข้อมูล CPI เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงและแนวโน้มในตลาดการลงทุนในแต่ละช่วงของเวลา ส่วนในส่วนของครัวเรือน CPI จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถวางแผนการใช้จ่ายและปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันได้อย่างถูกต้อง